Ultherapy SPT
Ulthera คืออะไร
ทุกคนคงรู้จักกันดีกับชื่อ Ulthera (อัลเทอร่า) เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี Ultherapy SPT ในการยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ที่มีความแม่นยำ โดยใช้คลื่นความถี่สูง (Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมของวงการแพทย์ด้านความงามที่ทันสมัย
หลักการทำงานของ Ulthera
เทคโนโลยี Ulthera คือการปล่อยพลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) ที่มีความเฉพาะเจาะลงไปยังผิวหนัง ด้วยความร้อนจุดเล็ก ๆ เพื่อให้เกิดความร้อน 60 – 70 องศา ปล่อยพลังงานเป็นจุดเท่า ๆ กัน ประมาณ 1 mm เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว จึงมีความสม่ำเสมอของพลังงาน
ระดับความลึกของการยิงของหัว Ulthera
- หัว 1.5 mm เหมาะสำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- หัว 3.0 mm สำหรับกระชับชั้นไขมัน (Subcutis) เหมาะสำหรับลดความหย่อนคล้อยของผิว
- หัว 4.5 mm สำหรับยิงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ยกเหนียง ยกแก้ม
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา ในการประเมินว่าจะใช้หัว Ulthera ในแต่ละเคสตามความเหมาะสม
นวัตกรรม Ultherapy SPT คือ แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถใช้ Ulthera ในการ Customize เพื่อแก้ไขปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลโดยเฉพาะ กล่าวคือ
- See เห็นภาพขณะทำการรักษาผ่านหน้าจอของเครื่อง Ulthera เห็นชั้นผิวละเอียดแบบ Real – Time
- Plan วางแผนการรักษาตำแหน่งที่จะทำการรักษา วิเคราะห์จากบนหน้าจอ พิจารณาหัว พลังงานและจำนวนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- Treat ทำการรักษาได้ตรงจุด จึงเกิดความแม่นยำสูง หลีกเลี่ยงจุดที่ทำให้เจ็บ และได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่า
Ulthera ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ยกกระชับใบหน้า กรอบหน้าชัดขึ้น
- ลดผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องแก้ม
- ช่วยในการยกหางคิ้วและหางตา
- กระตุ้นคอลลาเจน ได้งานผิว
- ฟื้นฟูระดับชั้นลึก ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ข้อดีของ Ulthera
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง รักษาริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง มีความปลอดภัยสูง ไม่มีรอย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น แต่งหน้าได้ตามปกติ หลังทำ ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 ปี
สรุป
Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วย Ultrasound คลื่นเสียง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น มีความปลอดภัยสูง ยกกระชับได้ทั้ง ใบหน้า ลำคอ และลำตัว หลังทำเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที และเต็มที่เมื่อครบ 3 เดือน ทำ 1 ครั้ง อยู่ได้ 1 ปี
Morpheus Pro
Morpheus Pro คืออะไร
Morpheus Pro คือนวัตกรรมการยกกระชับ โดยมีชื่อเทคโนโลยีว่า ”Morpheus 8” ที่ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ RF (Radio frequency) ในรูปแบบ Microneedle RF ปล่อยพลังงานผ่านเข็มเคลือบทองคำ ลงลึกได้หลายระดับชั้นผิว (Multi-Layer Technology) และลึกที่สุดที่องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริการับรอง (Deepest USFDA Approved Fractional Technology) ที่เอสติมา คลินิก ได้พัฒนา “ Absolute Tight Technique” ที่ทำให้ยกกระชับที่สุด จากประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 2,000 เคส ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือลำตัว เห็นผลจริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
หลักการทำงานของ Morpheus Pro
- การปล่อยพลังงาน
- Morpheus Pro เทคนิค Absolute Tight จะปล่อยพลังงานเข้าสู่ชั้นใต้ผิว ผ่านหัว Applicator ส่งต่อไปที่ Tips ที่มีเข็มทองขนาดเล็กซึ่งจำนวนเข็มจะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ยิง
- ตรงบริเวณปลายของหัวยิง Tips ทำมาจากวัสดุที่เป็นทำให้เกิดการนำไฟฟ้า เกิดการปล่อยพลังงานแบบ Bipolar ผ่านปลายเข็มและวนกลับมาสู่บริแวณหัว เกิดความเสถียรของการปล่อยพลังงาน
- การปล่อยพลังงานความร้อนได้ลึกและแรง ความร้อนสูงถึง 100 องศาเซลเซียส แม้เป็นเข็มแต่ไม่มีเลือดออกเนื่องจากเป็นความร้อนในระดับที่สามารถห้ามเลือดได้
- Burst Mode, โหมดอัจฉริยะ
- ความล้ำสมัยของเครื่อง Morpheus Pro อีกเรื่องคือ โหมดในการเลือกยิง ซึ่งแพทย์ผู้ดูแลเคสจะเป็นคนพิจารณาเคสต่อเคส ตามหลัก “เทคนิค Absolute Tight” โหมดหนึ่งที่น่าสนใจคือ Burst Mode ซึ่งคือ โหมดที่สามารถปล่อยพลังงาน
- ได้ลงลึกหลายชั้นภายในการยิง 1 ครั้ง ลดเวลาทำการรักษา คนไข้เจ็บน้อยลง ซึ่งความลึกในการยิงก็จะแตกต่างกันตามหัว Tips ที่ใช้
- หัว Morpheus 8 Tips ที่เอสติมา คลินิก เราจะเลือกใช้หัวให้เหมาะสมกับบริเวณที่รักษา ทุกหัวเปิดใหม่ผ่านการ Sterile แล้ว เปิดใช้เมื่อเริ่มยิง Morpheus Pro มั่นใจเรื่องความสะอาดและปลอดภัย
- หัวตัว (Body Tip) มีเข็มทั้งหมด 40 เข็ม และสามารถยิงลงลึกได้มากที่สุด 7 – 8 mm เหมาะกับบริเวณหน้าท้อง แขน ต้นขา น่อง และบริเวณลำตัวอื่น ๆ
- หัวหน้า (Face Tip) มีเข็มทั้งหมด 24 เข็ม และสามารถยิงลงลึกได้มากที่สุด 4 – 5 mm เหมาะกับบริเวณใบหน้าและลำคอ
- หัว Prime (Prime Tip) มีเข็มทั้งหมด 12 เข็ม และสามารถยิงลงลึกได้มากที่สุด 4 – 5 mm เหมาะกับบริเวณเล็กบนใบหน้าเช่น ใต้ตา สันจมูก รองแก้ม เป็นต้น
โปรแกรม Morpheus Pro ที่เอสติมา คลินิก
Morpheus Pro Body
เป็นโปรแกรมของเอสติมา คลินิก ที่ดูแลยกกระชับด้วยเทคโนโลยี Morpheus Pro บริเวณร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง เคสหน้าท้องคุณแม่หลังคลอด ท้องแขนที่หย่อน หัวเข่าย่น ต้นขาและน่องมีความไม่กระชับ สลายไขมัน และรอยแตกลาย โดยใช้หัว Body Tips ทุกเคสที่ทำการรักษา และสามารถลงลึกถึง 8 mm ปรับค่าพลังงานตามความเหมาะสมโดยแพทย์มากประสบการณ์
ใครที่เหมาะกับ Morpheus Pro Body
- คุณแม่หลังคลอด
ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยไม่กระชับ หน้าท้องยับ ยู้ ย้วยและปัญหารอยแตกลาย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ช่วงวัยใด ลูกกี่คน ก็สามารถดูแลได้ด้วย Morpheus Pro Body - คนที่ต้องรักษารอยแตกลาย
โดยเฉพาะรอยแตกลายขาว Morpheus Pro Body จะเข้าไปฟื้นฟู เสริมคอลลาเจน จนทำให้รอยแตกลายจางลง - คนที่ลดน้ำหนัก หรือ มีการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
จนทำให้ผิวหย่อน ไม่คืนกลับเหมือนตอนน้ำหนักปกติ มี Love Handle หรือ บั้นเอวที่ล้นออกมา เป็นต้น - คนที่เคยดูดไขมันมาแล้วผิวยังไม่กระชับ ไม่เรียบ
ที่พบปัญหาผิวมีความเป็นคลื่น มีเซลลูไลท์ ไม่กระชับ - คนที่เคยผ่าตัดหนังหน้าท้องมาแล้ว
ต้องการฟื้นฟูผิวให้เฟิร์มมากขึ้น เก็บบางบริเวณที่ยังมีความกังวลอยู่ - คนที่ต้องการกระชับรูปร่างให้ฟิตทุกสัดส่วน
ต้องการให้ผิวแข็งแรงขึ้น สลายเซลลูไลท์ เก็บสัดส่วนให้ได้รุปมากขึ้นก็ทำได้ ทั้งบริเวท้องแขน หน้าท้อง นมน้อย Bra Fat เข่ายับหย่อน เป็นต้น
Morpheus Pro Face and Neck
เป็นการดูแลด้วยเทคโนโลยี Morpheus Pro โดยใช้ Face and Neck Tips ซึ่งจะมีเข็มทั้งหมด 24 เข็มและลงลึก 4 – 5 mm ออกแบบการรักษาด้วย เทคนิค Absolute Tight ที่จะทำให้คนที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณหน้า ริ้วรอยที่เก็บไม่หมดด้วย สารลดเลือนริ้วรอย ก็จะช่วยได้ พร้อมทั้งสลายไขมันบริเวณเหนียง กรอบหน้าดูชัดขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ได้ทั้งงานผิว Skin Quality การยกกระชับในคราวเดียวกัน
ใครที่เหมาะกับ Morpheus Pro Face and Neck
- คนที่ต้องยกกระชับ เก็บกรอบหน้า
- คนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย หน้าดูมีอายุมากกว่าวัย
- คนที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงของผิว เพิ่ม Skin Quality ให้ดีขึ้น
- คนที่ต้องการลดเหนียง ความคล้อยของหนังที่ทำให้ดูใบหน้าใหญ่และแก่ก่อนวัย
Morpheus Pro Acne Treatment
การรักษาด้วย Morpheus Pro ที่เน้นฟื้นฟูหลุมสิว โดยเฉพาะ Rolling Scar ที่มีความโค้งและตื้น รูขุมขน ผิวไม่เรียบเนียน โดยปรับพลังงานให้เหมาะสม แบบเฉพาะเทคนิค Absolute Tight ที่จะฟื้นฟู กระตุ้นคอลลาเจน เสริมสร้างผิวองค์รวม พร้อมได้งานผิว Skin Quality ดีขึ้น
ใครที่เหมาะกับ Morpheus Pro Acne Treatment
- คนที่มีปัญหาหลุมสิว ยาวนาน ผิวไม่เรียบเนียน
- คนที่มีปัญหา เรื่องรูขุมขน ไม่กระชับ
Morpheus Pro Prime
ในจุดกังวลของใครหลายคนที่ทำให้ใบหน้าไม่สดใส ดูโทรม ดูแก่กว่าวัย หรือความไม่เรียบเนียน ในพื้นที่เล็กเช่น สันจมูก ใต้ตา ร่องแก้ม เป็นต้น ทีมแพทย์เอสติมาจะเลือก
ใครที่เหมาะกับ Morpheus Pro Prime
คนที่อยากเก็บรายละเอียดริ้วรอย งานฟื้นฟู กระตุ้นคอลลาเจน บริเวณจุดเล็ก ๆ เพิ่มเติม
ที่สุดของนวัตกรรมแห่งอนาคต Morpheus Pro
- ลดเลือนริ้วรอยที่สารลดเลือนริ้วรอยเก็บไม่หมด ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอบดวงตา เส้นบริเวณคอ
- เทคโนโลยีที่ช่วยหดชั้นไขมันใต้ผิว คืนความกระชับ ดูอ่อนเยาว์
- กระชับผิว สลายไขมัน ลดเหนียง กรอบหน้าชัด
- กระตุ้น ซ่อม สร้างคอลลาเจน จัดเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น
- ทำได้ทุกเฉดสีผิวอย่างปลอดภัย
- ลดรอยแผลเป็น รอยแตกลาย ให้ดูจางลงกลืนไปกับผิวมากขึ้น
- ได้รับการรับรองจากสถาบันและองค์กรชั้นนำ โดยเฉพาะ USFDA องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา และอย. ไทย เรียบร้อยแล้ว
- หัว Tips มีความสะอาดปลอดภัย เปิดใช้งานก่อนการรักษาเท่านั้น
- ไม่จำกัดซ็อต เมื่อเปิดใช้งานแล้วสามารถยิงจนถึงระดับที่เหมาะสม ตามเทคนิค Absolute Tight เพื่อผลลัพธ์ที่เต็มที่
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ดูแลหลังทำง่ายมาก สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำทันที
Sculptra
Sculptra คืออะไร
Sculptra คืออนุภาคของสาร Poly-L-Lactic acid หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า PLLA ซึ่งถือเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติตัวแรกของโลก (The First & Original Collagen Biostimulator) มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยให้ผิวกระชับ ฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
Sculptra ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 โดยมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 50 ฉบับ และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P.
หลักการการทำงานของSculptra
การกระตุ้นคอลลาเจนจากภายในร่างกาย Biostimulator คอลลาเจนถือเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายโดยเฉพาะโครงสร้าง และชั้นผิว ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นระดับการสร้างคอลลาเจนน้อยลง ตั้งแต่อายุ 25 ปีและน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อระดับคอลลาเจนน้อยลง ก็จะส่งผลกระทบกับผิวหนังที่จะเกิดริ้วรอย หน้าแห้งกร้าน ไม่กระชับ และเกิดริ้วรอยร่องลึกถ้าไม่ได้รับการดูแล
Sculptra จึงเป็นนวัตกรรมความงามที่ผ่านการวิจัยและคิดค้นว่าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้นได้ ส่งผลประโยชน์ในด้านความงาม การย้อนวัยผิว ความแข็งแรงของผิว
ประเภทของคอลลาเจน
คอลลาเจนมีหลายชนิด ซึ่งจะแตกต่างตามโครงสร้างและความยืดหยุ่น โดยสามารถแบ่งคอลลาเจนออกเป็น 5 ชนิด ดังนี้
- Collagen Type I: เป็นคอลลาเจนชนิดที่มีมากที่สุดในร่างกาย เป็นโครงสร้างให้กับผิวหนัง ผนังหลอดเลือด เส้นเอ็น มีความเหนียวและแข็งแรง ช่วยให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นและคงรูปร่างได้
- Collagen Type II: เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบมากในกระดูกอ่อน เช่น กระดูกอ่อนใบหู กระดูกซี่โครง หลอดลม มีหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงกับข้อต่อต่าง ๆ ขณะที่มีการเคลื่อนไหว ดูดซับแรงกระทบไม่ให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ
- Collagen Type III: เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้น้อย ส่วนใหญ่จะทำงานร่วมกับ Collagen Type I พบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
- Collagen Type IV: เป็นคอลลาเจนที่มีความเฉพาะตัว พบใน ชั้นเยื่อรับรองผิว (Basement membrane) ของอวัยวะต่าง ๆ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารระหว่างชั้นเนื้อเยื่อ ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
- Collagen Type V: เป็นคอลลาเจนชนิดที่อยู่ในเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ เช่น ในกระจกตา ทำงานร่วมกับคอลลาเจนในผิวหนัง ผม เล็บ และพบมากในเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์และรก ช่วยให้เซลล์ผิวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและการเจริญของเส้นใยในชั้นผิว
Sculptra เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น
- เหมาะกับผู้ที่ริ้วรอยที่เห็นได้ชัด
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวภายใน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ต้องการผิวแน่นอิ่มฟู
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การฉีดที่ยาวนาน เพราะ Sculptra คงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี
ข้อควรระวังการฉีด Sculptra
ข้อห้ามในการฉีด Sculptra
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Sculptra ได้แก่ Poly-L-lactic acid (PLLA), Carboxymethylcellulose (CMC) , Non-pyrogenic mannitol
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE)
- ผู้ที่ใช้ยาในยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra
หลังทำ Sculptra อาจมีอาการบวม ปวด มีรอยแดงในบริเวณที่ฉีดได้ จะค่อย ๆ หายได้เองใน 2-3 วันครับ และในบางราย อาจคลำพบก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังในช่วงแรก แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ ก้อนดังกล่าว จะค่อย ๆ หายไปครับ
Thread Lift
Thread Lift ร้อยไหม คืออะไร
คือการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แก้ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลหลังทำทันที
โปรแกรมร้อยไหมอิตาลี
นวัตกรรมไหมยกกระชับใบหน้าจากอิตาลี ที่ผลิตด้วยมาตรฐานของยุโรป รับรองด้วย CE
เป็นไหมประเภทไหมละลายที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย
เทคโนโลยีของไหมอิตาลี
- ผลิตจากโคโพลิเมอร์ P(LA – CL)
- เส้นไหมแข็งแรง เหนียว
- ยืดหยุ่นได้ดี ไม่เปราะ หัก หรือขาดง่าย
- อยู่ในร่างกายได้นานถึง 1 – 2 ปี
ยกกระชับผิวใน 2 ขั้นตอน
- ยกด้วยไหมที่มีลักษณะเป็นเงี่ยงเข้าหากัน (Bidirectional Convergent Barb) ยึดเกาะล็อคกับผิวได้ดีขึ้น
- เงี่ยงที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษของไหมอิตาลี จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะส่งผลต่อการยกกระชับใบหน้าได้ในระยะยาว
ไหมอิตาลี เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นผลจากการมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนา อันเป็นลักษณะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 30 – 60 ปี
Rejuv Lift
Rejuv Lift คืออะไร
เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งลักษณะของคลื่นอัลตราซาวน์ความถี่สูง โดยคลื่นความถี่นี้จะทำให้เกิดความร้อนเป็นจุดเล็กๆ เรียงต่อกันเป็นแถว ส่งผลให้ในแต่ละชั้นผิวเกิดการหดตัวและช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 – 30 นาที (ขึ้นอยู่จำนวนช็อตในการรักษาตามการพิจารณของแพทย์)
ข้อดีของการทำ Rejuv Lift
- เจ็บน้อยกว่า
- ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลทันทีหลังทำ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นหลังทำ 2 -3 เดือน
Rejuv Lift ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
- ยกคิ้ว ยกหางตา
- ลดไขมัน สลายเหนียง
Rejuv Lift ทำบริเวณไหนได้บ้าง
- ยกคิ้ว (Eyebrow)
- ริ้วรอยรอบดวงตา (Periobital Wrinkle)
- ลดริ้วรอย ร่องแก้ม (Wrinkle & Cheek)
- ปรับหน้าเรียว (V Line Forming)
