สาเหตุที่ทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร?
ปัจจัยภายนอกที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินลดลงจนทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะเริ่มมีริ้วรอย เหี่ยวย่น ดื่มน้ำน้อย จนถึงการสูบบุหรี่ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ จนเกิดไขมันสะสม ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น ผิวหนังก็จะถูกขยายออก ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง โดยปกติแล้วผิวของเราจะประกอบด้วย 2 สิ่งหลักก็คอลลาเจน และอีลาสตินนั้นเอง มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น หากผิวหนังเกิดสูญเสียความยืดหยุ่นไป พอน้ำหนักลง ผิวหนังไม่สามารถหดกลับมากระชับได้เหมือนเดิม ปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับ
- ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เมื่อน้ำหนักลดลง ผิวหนังไม่สามารถหดกลับมาได้เหมือนเดิม ทำให้เกิดผิวที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับนั้นเอง
- คนที่เคยผ่าตัดกระเพาะ หรือการรักษาโรคอ้วน เมื่อผ่าตัดแล้ว น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
- คุณแม่หลังคลอด การตั้งท้องลูกหลายคน หน้าท้องขยายมานาน เมื่อถึงเวลาคลอดลูกทำให้หน้าท้องย้วยได้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น อายุยิ่งเยอะโครงสร้างผิวเริ่มเสื่อม หากเราไม่ดูแลให้ดี จะเห็นได้ว่าผิวหนังหน้าท้องเริ่มหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ยิ่งคุณรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง แป้ง น้ำตาล และไม่ค่อยออกกำลัง ไขมันเสียจะยิ่งสะสมมากขึ้นนั้นเอง
- การลดน้ำหนักที่ผิดวิธี หรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เมื่อเราน้ำหนักตัวมากขึ้น ผิวหนังเราเริ่มขยายตัวทำให้เสียความยืดหยุ่น หากใครลดน้ำหนักผิดวิธี ผิวหนังหน้าท้องหดอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นผิวหน้าท้องย้วยออกมา
- ดูดไขมันออกมากจนเกินไป สำหรับใครที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากเกินไป แล้วไปทำศัลยกรรมในการดูดไขมันหน้าท้อง ส่งผลให้ผิวหน้าท้องไม่กระชับ และหน้าท้องย้วยตามมา
วิธียกกระชับผิวโดยไม่ต้องศัลยกรรมด้วย Morpheus pro Body ทางลัดกระชับผิวหย่อนคล้อย
การทำงานของ Morpheus pro จะปล่อยพลังงานความถี่วิทยุ ลงสู่ชั้นใต้ผิวผ่านหัวเข็มสีทองจำนวน 40 เข็ม ซึ่งหัวยิงนั้นสามารถปรับค่าพลังงาน ระดับความลึกให้เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกัวลเรื่องความปลอดภัย เพราะเครื่อง Morpheus pro ได้รับการรับรองจาก US FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นนวัตกรรมที่สามารถส่งคลื่นใต้ผิวหนังได้ลึกที่สุดซึ่งประสบการณ์ของแพทย์ที่เอสติมา คลินิกของเรามีเคสมากกว่า 3,000 เคส พลังงานที่ส่งไปจะเข้าไปกระตุ้นการจัดเรียงใหม่ตัวใหม่ของคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวกระตุ้นเกิดการสร้าง HA (Hyaluronic Acid) เพื่อฟื้นฟูผิวที่เสื่อมให้อ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น พร้อมช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้อีกด้วย หัวยิงเราใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ เคสต่อเคส หัวยิงถูกบรรจุอยู่ในซองที่ผ่าน ที่ผ่านกระบวนการ GAMMA Sterilized นวัตกรรม Morpheus pro ทำงานที่ชั้นผิวด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ดังนี้
- ผิวหนังกำพร้า (Epidermis)
- ผิวหนังแท้ (Dermis)
- ผิวหนังแท้ชั้นกลาง (Mid dermis)
- ผิวหนังแท้ชั้นลึก (Deep dermis)
- ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutancous tissue)
- ชั้นกล้ามเนื้อ (Smas)
- ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle)
Morpheus pro ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้าและลำตัว
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินให้สร้างขึ้นใหม่
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างล้ำลึก
- กระชับรูขุมขน ปรับผิวเรียบเนียน
- ลดรอยแตกลาย เซลลูไลต์ และรอยแผลเป็น
- ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ
- ลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้มตื้นขึ้น
Morpheus pro เหมาะกับใครบ้าง?
นวัตกรรมเคลียร์ครบจบปัญหาผิวในเครื่องเดียว ที่สุดของตัวช่วยในเรื่องผิวกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย และร่องลึกต่างๆ รวมถึงช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน อ่อนเยาว์อีกครั้ง
- เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหน่อยคล้อย ผิวยับ ย่น
- เหมาะกับผู้ที่มีหน้าท้องไม่กระชับ ผิวย่น หลังคลอดหรือหลังออกกำลังกายลดน้ำหนัก
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณต่างๆ
- เหมาะกับผู้มีผิวแตกลาย รอยแผลเป็น เซลลูไลต์
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวมีรอยแดง รอยดำ
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวเหี่ยวย่น ไม่กระชับ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วย Morpheus pro
- ก่อนทำการรักษาควรหลีกเลี่ยงแดดจัด ๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดการสคับผิวหรือเข้าสปาเพื่อขัดผิวในบริเวณที่จะรักษา
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยาละลายลิ่มเลือดประมาณ 1สัปดาห์
- ควรดื่มน้ำให้มาก
- งดทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อลดการระคายเคือง
เทคนิคเฉพาะเอสติมา คลินิก
ระหว่างการรักษาด้วย Morpheus pro เจ็บไหม
ผลลัพธ์หลังทำ
- หลังทำการรักษาอาจมีรอยแดงบริเวณที่ทำ แต่รอยแดงนั้น ๆ จะค่อยหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง ผิวก็กลับเข้าสู่ปกติ
- ประมาณ 2-3 หลังทำการรักษา จะมีสะเก็ดบางๆบริเวณที่ทำ ซึ่งสะเก็ดจะอยู่ประมาณ 3-10 วัน จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล หลังจากนั้นสะเก็ดจะค่อย ๆ หายไปเอง
- ห้ามแกะหรือเกาบริเวณที่มีสะเก็ด
- คนที่มีผิวมันสะเก็ดจะอยู่ประมาณ 3-5 วัน
- คนที่มีผิวแห้งสะเก็ดจะอยู่ประมาณ 7-10 วัน
- หลังทำผิวจะเริ่มกระชับขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ผิวจะมีการเปลี่ยนแปลงเต็มที่ 3 เดือน
- ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานถึง 2 ปี ทำทีเดียวคุ้มค่ามาก
ต้องทำ Morpheus pro บ่อยแค่ไหนถึงจะได้ผล
ข้อควรระวังในการรักษาด้วย Morpheus pro
- ผู้ที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDS ควรหยุดยาก่อนและหลังทำอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนังเรื้อรังหรือผิวหนังอักเสบ
- ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือมีความบกพร่องในเรื่องระบบประสาท
- ผู้ที่ยังตั้งครรภ์อยู่