โปรแกรม Ultherapy Prime เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากโปรแกรม Ultherapy รุ่นก่อน ๆ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในกลางปี 2025 โดยมีการเปลี่ยนโฉมตัวเครื่องใหม่ พัฒนาขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตอย่าง Merz Aesthetics ถือว่าเป็นการยกระดับเทคโนโลยียกกระชับขึ้นไปอีกขั้น ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือพิเศษจากรุ่นปัจจุบันอย่างโปรแกรม Ultherapy SPT อย่างไรบ้าง? โดยเฉพาะผลการรักษาที่ได้รับมีความแตกต่างกันไหม? ทางเอสติมา คลินิก จะพามาเจาะลึกข้อมูลกันค่ะ
โปรแกรม Ultherapy Prime คืออะไร?
โปรแกรม Ultherapy Prime หรือ โปรแกรม Ultherapy รุ่นใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในกลางปี 2025 นั้น เป็นการปรับปรุงรูปลักษณ์ของตัวเครื่องให้ดูสวยงามและทันสมัยขึ้น แต่ยังคงพลังงานและเทคโนโลยีภายในที่ใช้ในการยกกระชับผิวยังคงเหมือนเดิม ก็คือใช้พลังงานอัลตราซาวด์( Micro-Focused Ultrasound) ส่งลงสู่ใต้ชั้นผิวถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า มาพร้อมกับหน้าจอแสดงการ Scan เห็นชั้นผิวคนไข้ขณะทำแบบ Real-time Visualization โดยแพทย์ผู้ทำจะเห็นโครงสร้างแต่ละบริเวณของชั้นผิวบนใบหน้าคนไข้ จึงช่วยวางแผนการรักษา และส่งพลังงานตรงตำแหน่งที่ต้องการทำการรักษาอย่างแม่นยำมากกว่าที่เคย ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับผิวบริเวณใกล้เคียง ทำการรักษาได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับโปรแกรม Ultherapy รุ่นเก่า ทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีและยกกระชับยาวนาน ในการทำหัตถการไปเพียงแค่ 1 ครั้ง ก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ประทับใจ
คุณสมบัติที่เพิ่มมาใหม่ในโปรแกรม Ultherapy Prime
โฉมหน้าใหม่ของเครื่องโดดเด่นด้วยความล้ำสมัย
การออกแบบใหม่ของเครื่องในโปรแกรม Ultherapy Prime มีความสวยงามและล้ำสมัยขึ้น โดยเฉพาะการลดขนาดตัวเครื่องให้เล็กลง ทำให้เครื่องดูเรียบหรู รวมถึงสามารถเคลื่อนย้ายและใช้งานได้อย่างคล่องตัวในการทำการรักษา
หน้าจอที่ใหญ่และชัดเจนยิ่งขึ้น
มีการพัฒนาหน้าจอให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นถึง 35% จากรุ่นเดิม โปรแกรม Ultherapy Prime รุ่นใหม่ ช่วยให้มองเห็นภาพสแกนชั้นผิวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความสะดวกในการมองเห็น ภาพคมชัดมีความละเอียดสูง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษา แต่ช่วยทำให้แพทย์สามารถทำการรักษา และวางแผนการรักษาได้แม่นยำ และตรงกับปัญหาผิวของคนไข้ได้มากยิ่งขึ้น
มีระบบประมวลผลที่เร็วขึ้น
โปรแกรม Ultherapy Prime มาพร้อมกับระบบประมวลผลที่เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ระยะเวลาในการรักษาลดลงประมาณ 10 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน เพราะการประมวลผลที่เร็วขึ้น จึงทำให้การยิงและการสแกนมีความรวดเร็วมากขึ้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ความชำนาญและเทคนิคที่ใช้ทำการรักษาของแพทย์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ด้วยประสบการณ์การรักษาต้องมีความรู้และความชำนาญการ รู้จักชั้นผิวและใบหน้าอย่างดี และใส่ใจดูแลทำการรักษาด้วยความปลอดภัย
Ultherapy Prime เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยขาดความกระชับ
ผู้ที่มีผิวหน้าไม่กระชับหรือมีความกระชับลดน้อยลงกว่าเดิม มีความหย่อนคล้อยมากขึ้น เช่น แก้มย้อย รูปหน้ามีความเปลี่ยนแปลง หรือกรอบหน้าที่ไม่ชัดเจน เนื่องมาจากการสูญเสียคอลลาเจนบริเวณใต้ผิวหนัง การทำโปรแกรม Ultherapy Prime จะช่วยในการจัดเรียงคอลลาเจนใต้ผิวหนังขึ้นใหม่ ช่วยสร้างคอลลาเจนมากขึ้น และยังช่วยลดความหย่อนคล้อย ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ร่องลึก ความเหี่ยวย่น
ผู้ที่มีริ้วรอยบาง ๆ ที่หน้าผาก รอบดวงตา มุมปาก หรือผู้ที่มีปัญหาร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก โดยโปรแกรม Ultherapy Prime สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ จึงสามารถเข้าไปช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้รอยย่นบนผิวหน้าตื้นขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า และใต้คาง
ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในบริเวณแก้ม ใต้คาง หรือเหนียง การทำโปรแกรม Ultherapy Prime สามารถช่วยสลายเหนียง ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญจะไม่ทำให้หน้าตอบหรือก่อให้เกิดผลกระทบกับผิวบริเวณใกล้เคียง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟู ปรับปรุงคุณภาพผิวในส่วนอื่นๆ
โปรแกรม Ultherapy Prime สามารถยกกระชับผิวที่มีปัญหาเหี่ยวย่น ในบริเวณอื่น ๆ นอกจากใบหน้าได้ เช่น ลำคอ เนินอก เป็นต้น
ข้อดีของ Ultherapy Prime
1. โปรแกรม Ultherapy Prime มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
โปรแกรม Ultherapy Prime ใช้เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อทำการยกกระชับโดยเฉพาะ โดยแพทย์ผู้ทำสามารถมองเห็นโครงสร้างผิวหนังได้อย่างแม่นยำ ชัดมากขึ้น มีการแสดงผลที่เร็วมากขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการรักษาน้อยลงกว่ารุ่นเดิม แล้วยังสามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
2. โปรแกรม Ultherapy Prime กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
โปรแกรม Ultherapy Prime เป็นเทคโนโลยีที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังสามารถส่งพลังงานลงถึงผิวชั้น SMAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ผิวมีความกระชับและเรียบเนียนแลดูเป็นธรรมชาติ และเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
3. โปรแกรม Ultherapy Prime ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
เนื่องจากโปรแกรม Ultherapy Prime เป็นนวัตกรรมเครื่องยกกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องพักฟื้นใบหน้าหลังทำ ในบางคนอาจมีอาการผิวอมชมพูเล็กน้อยหลังทำ คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติหลังทำทันที
4. โปรแกรม Ultherapy Prime สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานได้เท่าไร ?
ผลลัพธ์โปรแกรม Ultherapy Prime จะสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1 ปีหรือนานกว่านั้น โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลของแต่ละบุคคล
5. โปรแกรม Ultherapy Prime เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
สามารถใช้ได้กับผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยทุกระดับ สามารถทำได้ทุกสภาพผิว นออกจากหน้าแล้วก็สามารถทำได้ในบริเวณร่างกาย เช่น ลำคอ และเนินอก
การเตรียมตัวก่อนการรักษาและการดูแลหลังการรักษา
1. ทำการปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ก่อนทำการรักษาด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ก่อนการเข้ารับบริการ เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินการรักษาและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
2. ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิว และเตรียมผิว
- ก่อนเริ่มการรักษาด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime ผู้ช่วยแพทย์จะมีการทำความสะอาดผิว ในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา จากนั้นจะทำการเตรียมผิวโดยการทายาชา หรือใช้ยาชาบริเวณที่ต้องการประมาณ 40-60 นาที เพื่อลดความรู้สึก หรือทำให้สบายผิวมากขึ้นในขณะทำการรักษา
3. ลงมือทำ Ultherapy Prime
- โปรแกรม Ultherapy Prime ใช้เทคโนโลยี Ultrasound ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการยกกระชับ และจัดเรียงคอลลาเจนใต้ผิว โดยมีการแสดงภาพโครงสร้างชั้นผิวแบบเรียลไทม์ทันทีบนหน้าจอ เพื่อให้แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างผิวหนังได้ชัดเจน และสามารถปรับการตั้งค่าการปล่อยคลื่นพลังงานลงในชั้นผิวหนังที่ลึกได้ตามต้องการ กระตุ้นได้อย่างแม่นยำ ลงไปยังชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ใต้ชั้นผิว
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Ultherapy Prime
- ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับบ้าน หรือไปทำกิจกรรมตามชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น
- หลังทำเสร็จแล้ว อาจมีอาการผิวอมชมพูหรือบวมเล็กน้อย บริเวณที่ทำการรักษา โดยอาการนี้จะหายไปได้เอง โดยไม่ต้องกังวล
- ควรทาครีมบำรุงผิว รวมทั้งครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ++ ขึ้นไป ทั้งช่วงก่อนออกแดด และระหว่างการเจอแสงเจอแดด และบำรุงความชุ่มชื้นหลังออกแดด
- ไม่ควรสัมผัสผิวหน้าแรง หรือจับผิวหน้าแรง เนื่องจากอาจจะมีความระบมอยู่ใต้ชั้นผิว หากมีอาการปวดในบริเวณที่ทำ สามารถรับประทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาได้
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปตามต้องการให้มากที่สุด
ผลลัพธ์หลังทําโปรแกรม Ultherapy Prime
หลังทำการรักษาด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime คนไข้จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้นภายใน 1-3 เดือน และสามารถคงสภาพผลลัพธ์ในการยกกระชับได้นาน 1- 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ และการดูแลหลังทำการรักษา
โปรแกรม Ultherapy Prime ดีกว่า โปรแกรม Ultherapy SPT อย่างไร?
1. สามารถแสดงภาพสแกนชั้นผิวผ่านจอแบบเรียลไทม์ที่แม่นยำ และมีขนาดจอที่ใหญ่ เห็นภาพสแกนชั้นผิวได้ชัด และมีความละเอียดมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้ดีมากขึ้น
2. โปรแกรม Ultherapy Prime ถูกพัฒนาขึ้นให้มีการประมวลผลได้เร็วขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึง 20%เมื่อเทียบกับโปรแกรม Ultherapy SPT รุ่นปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำการรักษาให้เร็วขึ้นมาก
3. มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และชัดเจนขึ้น โปรแกรม Ultherapy Prime มีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 35% จึงทำให้แพทย์สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่ทำการรักษา ส่งพลังงานสู่ใต้ชั้นผิวได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้ผลการรักษาเห็นผลได้ดีมากยิ่งขึ้น
โปรแกรม Ultherapy Prime รุ่นใหม่ จะมีความแตกต่างจากโปรแกรม Ultherapy SPT ในด้านของหน้าจอที่มีความใหญ่และชัดมากขึ้น รวมถึงการแสดงผลที่เร็วมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ในการรักษานั้น ไม่ได้มีความแตกต่างจากโปรแกรม Ultherapy SPT มากนัก เนื่องจากยังคงความยกกระชับ และสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้เป็นอย่างดีเช่นเดิม แต่อาจจะช่วยลดเวลาในทำการรักษาลง โปรแกรม Ultherapy Prime จะใช้เวลาในการทำหัตถการน้อยลงกว่า โปรแกรม Ultherapy SPT ในรุ่นปัจจุบัน
การเลือกรับบริการโปรแกรม Ultherapy Prime ที่ Aestima Clinic
ที่ Aestima Clinic ทีมแพทย์ได้มีการดูแลรักษาด้วยเทคนิคจากการคิดค้นขึ้นมาด้วยประสบการณ์การรักษาหลากหลายเคส ด้วยเทคนิค SPT
S – See โดยแพทย์สามารถมองเห็นปัญหาบนใบหน้าได้อย่างละเอียดและชัดเจน โดยแพทย์จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) เป็นการส่งผ่านคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงลึกเข้าไปที่ชั้นผิว SMAS โดยสมารถมองเห็นภาพชั้นผิวได้ทางหน้าจอ
P – Plan เป็นขั้นตอนวางแผนและการออกแบบการรักษา เมื่อแพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวได้แบบ Real Time ก็ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์ถึงปัญหาได้อย่างละเอียด และวางแผนการรักษาได้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ในแต่ละรายได้
T – Treat เมื่อแพทย์วางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ได้แล้ว ก็จะทําการรักษาด้วยเทคนิคของเอสติมา คลินิก ออกแบบการวางแนวการยิงและปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของคนไข้เฉพาะบุคคล เพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างแม่นยําและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่มีคุณภาพ สะอาด ได้มารตฐาน แพทย์ดูแลใส่ใจในการรักษา อย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยและไม่ทําให้เกิดผลข้างเคียง
Frequently Asked Questions
Q : โปรแกรม Ultherapy Prime vs โปรแกรม Ultherapy SPT ควรเลือกทำรุ่นไหน?
A : โดยโปรแกรม Ultherapy ทั้ง 2 รุ่น มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีเท่ากัน เนื่องจากตัวสแกนหรือการปล่อยพลังงานทั้งหมดยังคงเหมือนเดิม และได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน เนื่องจากพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาเหมือนกัน เทคโนโลยีตัวสแกนผิวตัวเดียวกัน หัวยิงทั้งสองรุ่นเหมือนกัน อาจจะแตกต่างด้วยเทคนิค และการออกแบบของแพทย์ผู้รักษา โดยโปรแกรม Ultherapy Prime จะเด่นกว่าในเรื่องระยะเวลา สามารถทำการรักษาได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิม
Q : Ultherapy Prime เจ็บน้อยกว่าหรือไม่?
A : ไม่ เพราะหัวยิงปล่อยพลังงานออกมาเหมือนรุ่นเดิม หลังทำเสร็จจะมีแค่อาการผิวอมชมพู และไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักหน้า สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย
สรุป
โปรแกรม Ultherapy Prime คือเครื่องยกกระชับผิวรุ่นใหม่ที่ได้มีการปรับรูปลักษณ์ให้สวยงามและทันสมัยขึ้น แต่ยังคงพลังงานและเทคโนโลยีภายในที่ใช้เหมือนเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับ โปรแกรม Ultherapy รุ่นก่อนๆ คือจะมีการพัฒนาให้มีหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ภาพคมชัดและสว่างขึ้น นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังมีการประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น แต่ด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำยังคงเท่ากับ Ultherapy SPT รุ่นปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเทคนิคของแพทย์ ที่ Aestima Clinic มีบริการ Ultherapy ด้วยเครื่องที่ได้มาตรฐานมีความถูกต้อง พร้อมเทคนิคการยกกระชับ โดยแพทย์จะมีการประเมินผิวและทำการวิเคราะห์ผิวแบบเฉพาะรายบุคคลก่อนการรักษา ออกแบบวางแผนไลน์การยิงเฉพาะบุคคล และสแกน SMAS แม่นยำทุกช็อต ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในจำนวนช็อตที่เท่ากัน
