ไหมน้ำ คืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง? กระตุ้นคอลลาเจนได้ไหม?

ไหมน้ำ คืออะไร

“ไหมน้ำ” คือนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยให้ผิวแน่น กระชับ ลดริ้วรอย บำรุงลึกถึงชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน การทำงานและผลลัพธ์ที่ได้จะคล้ายๆ กับการร้อยไหม แต่อยู่ในรูปแบบการฉีดเข้าที่ผิวแทนการร้อยไหม สารที่จะฉีดเป็นของเหลว จึงเรียกว่า “ไหมน้ำ”
ไหมน้ำ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

“ไหมน้ำ” ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน สามารถฉีดได้ทั่วหน้า บริเวณลำคอ และยังสามารถฉีดเฉพาะจุดได้อีกด้วย จะช่วยในเรื่องของการกระชับผิว เติมความชุ่มชื้น ความเต่งตึง คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว และที่สำคัญช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ประเภทของไหมน้ำ

ไหมน้ำ ultracol ที่นิยมกันในปัจจุบันมีอยู่ 4 แบบดังนี้
- ไหมแบบสาร PLLA Poly-L-Lactic acid (Program Sculptra) เป็นสารที่สังเคราะห์ที่ทำให้มีความปลอดภัย และสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ฉีดเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ใต้ผิวหนัง ผลลัพธ์จะไม่ใด้เห็นผลทันที แต่จะค่อย ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเอง ทำให้ผิวตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เห็นผลลัพธ์เต็มที่หลังฉีด 1- 3 เดือน
- ไหมแบบสาร PDLLA Poly D-L-Lactic Acid (Program Juvelook) เป็นสารเติมเต็มกึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ กึ่งสกินบูสเตอร์ ที่ผสมผสานระหว่าง PDLLA และ HA เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ทั้งกระตุ้นคอลลาเจน และเติมน้ำให้ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว เติมความชุ่มชื้นให้ผิว สุขภาพดี ผิวจะเริ่มฟูขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 1-2 เดือน
- ไหมแบบสาร PDO Polydioxanone (Program Ultracol) คือ นวัตกรรมในกลุ่มสารกระตุ้นคอลลาเจน เป็นไหมแบบ PDO มาปรับโมเลกุลให้มีขนาดเล็กลงมากๆ เพื่อใช้สำหรับงานฉีด สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทั้ง Type I และ Type III และช่วยเพิ่มความหนาแน่นของชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความกระชับ และเต่งตึงขึ้น
- ไหมแบบสาร PCL Polycarpolactone (Program Gouri) เป็นสารที่มีความยืดหยุ่นมีโมเลกุลสูง จุดเด่นคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวมากขึ้น ลดริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ ปรับผิวให้มีความฟูกระจ่างใสมากขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และยังมีประสิทธิภาพทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างยาวนาน
หลักการทำงานของไหมน้ำ
“ไหมน้ำ” คือนวัตกรรมที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดี เต่งตึงมากขึ้น ซึ่งหลักการทำงานของไหมน้ำจะคล้ายกับการร้อยไหม แต่จะเป็นในรูปแบบฉีดที่ลงสู้ชั้นใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัด และพักฟื้น
ฉีดไหมน้ำ บริเวณไหนได้บ้าง?

“ไหมน้ำ” สามารถฉีดได้ทั่วทั้งใบหน้า และยังสามารถฉีดบริเวณร่างกายได้ดังนี้
- ฉีดทั่วใบหน้า
- หน้าผาก
- ขมับ
- ระหว่างคิ้ว
- ใต้ตา
- ร่องน้ำหมาก
- คอ
- เนินอก
- ต้นแขน
- หน้าท้อง
- ต้นขา
ฉีดไหมน้ำ อยู่ได้นานไหม?
- ไหมน้ำแบบ PDO จะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 8 เดือน
- ไหมน้ำแบบ PCL อยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน
- ไหมน้ำแบบ PLLA และ PDLLA จะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
ฉีดไหมน้ำ อันตรายไหม?

อันตรายไหม?
การฉีดไหมน้ำมีข้อดีอะไรบ้างที่ควรรู้
- ยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ลดเลือนริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใน ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม กรอบหน้า ร่องแก้ม
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ผิวจะค่อยๆ ดีขึ้นตามระยะเวลาที่ไหมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่ดูแข็งหรือหลอกตา
- ฟื้นตัวไว เป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน บางคนกลับไปทำงานต่อได้เลยหลังทำ
- ไหมสลายได้เอง ไม่ต้องผ่าตัดเอาออก ร่างกายสามารถดูดซึมและขับออกได้ภายใน 6-12 เดือน
- ทำซ้ำได้ สามารถทำเพิ่มได้เรื่อยๆ หากต้องการผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
การฉีดไหมน้ำมีข้อเสียอะไรบ้างที่ควรรู้
1. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป
2. อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม ช้ำ อักเสบ หรือไหมจับตัวเป็นก้อน ถ้าฉีดโดยผู้ไม่มีประสบการณ์
3. ราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะถ้าต้องฉีดหลายจุด
4. ไม่เหมาะกับคนผิวบางมากหรือมีปัญหาผิวเยอะ ทำให้ไม่เกิดผลลัพธ์ชัดเจน
5. ต้องพึ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะตำแหน่งที่ฉีดมีผลกับผลลัพธ์อย่างมาก ถ้าฉีดผิดจุดอาจทำให้รูปหน้าเบี้ยวหรือผิดรูปได้
ผลข้างเคียงของการฉีดไหมน้ำ จะมีอาการบวมหลังฉีด 2 – 3 วัน
- อาการแดงใต้ผิวประมาณ 1 ชั่วโมง
- อาจมีรอยช้ำที่เกิดจากเข็มบริเวณที่ฉีด
- รอผลลัพธ์ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์
- หากอยากให้ผลลัพธ์ชัดเจน และคงสภาพผิวตามที่ต้องการควรฉีดตามปริมาณ ที่กำหนดไว้
การฉีดไหมน้ำเหมาะกับใครบ้าง?

การฉีด ”ไหมน้ำ” เหมาะกับคนหลายกลุ่ม แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เรามาดูกันว่า ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดไหมน้ำ และการฉีดทุกครั้งจะต้องได้รับการประเมินผิวจากแพทย์เสมอ
- คนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น มุมปาก ร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด แต่ยังไม่ถึงขั้นผ่าตัดดึงหน้า
- อายุประมาณ 25-45 ปี เพราะเป็นช่วงเวลาที่คอลลาเจนเริ่มลดลง แต่ผิวยังสามารถฟื้นฟูได้ดีจากการกระตุ้น
- คนที่อยากกระชับผิวหน้า โดยไม่ผ่าตัด ไหมน้ำเหมาะกับคนที่กลัวมีด กลัวแผล ไม่อยากพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึง โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น เช่น ช่วยยกกระชับผิว ยกกรอบหน้า ลดเหนียง ยกคิ้ว ยกมุมปาก เป็นต้น
- คนที่มีเวลาน้อย ทำเสร็จใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย
การดูแลตัวเองหลังจากฉีดไหมน้ำ

- งดการจับหน้า หรือนวดหน้าแรงๆ
- งดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่มีความร้อนสูง อย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ เช่นซาวน่า หรือการอบไอน้ำ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮล์และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้การฟื้นตัวช้าลง และเสี่ยงต่อการอักเสบอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ประคบเย็นช่วยลดบวม
- หลีกเลี่ยงการใช้สารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol ประมาณ 1-2 วัน
สรุป
การฉีด “ไหมน้ำ” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกระชับ เต่งตึง ชุ่มชื้นมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพัก หากใครที่สนใจในการฉีดไหมน้ำ ว่าเราควรเลือกชนิดไหนที่เหมาะกับปัญหาที่มี สามารถปรึกษาได้ที่ เอสติมา คลินิก ทุกสาขานะคะ คุณหมอประเมินผิว การรักษาด้วยตัวเองทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความเปลี่ยนแปลงของผิวดีขึ้น และคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน