หน้าหมอง! ไม่สดใส! ทำยังไงดี? วิธีแก้หน้าโทรมเปลี่ยนผิวกระจ่างใสดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ
คุณเคยส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าหน้าดูเหนื่อยล้าบ้างไหม ทั้งที่เพิ่งตื่นนอนหรือหลังจากการได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ไหม?
“หน้าโทรม หน้าหมอง ดูไม่สดใส” คือปัญหาของคนวัยทำงานหลายคนกังวลล หรือแม้แต่คนที่ดูแลตัวเองดีก็อาจจะเจอปัญหานี้ได้เช่นกัน อาจจะมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือจากมลภาวะ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ก็สามารถทำให้หน้าโทรม หมองคล้ำได้เช่นเดียวกัน
วันนี้ Aestima Clinic จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของหน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ พร้อมทั้งแนะนำ วิธีแก้หน้าโทรม ที่ทำได้ทั้งจากภายนอกและภายใน รวมถึงแนวทางการดูแลผิวหน้าและการบำรุงผิวหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพที่ดีและยาวนาน
สาเหตุของหน้าโทรม
ก่อนจะหาวิธีแก้หน้าโทรม ก็ต้องทราบสาเหตุต้นตอของปัญหาก่อน โดยทั่วไป “หน้าโทรมหมองคล้ำ หน้าดูเหนื่อยล้า ผิวดูไม่สดใส” มีหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
- นอนดึกหรือนอนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่
- แสงแดด ทำร้ายคอลลาเจนในชั้นผิว และเพิ่มเม็ดสีเมลานินให้กับผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- มลภาวะในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่น pm 2.5 ควัน สิ่งแปลกปลอมที่อยู่รอบตัวเรา ทำให้สุขภาพผิวหน้าแย่ลง
- ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน C, E และ B รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ
- ความเครียดสะสม ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและระบบฮอร์โมน
- ดื่มน้ำน้อย ทำให้เซลล์ผิวเสียความชุ่มชื้น เกิดรอยย่น ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง
- การไม่ล้างหน้าก่อนนอน ทำให้ผิวอุดตันและหมองคล้ำ
- อายุมากขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายเสื่อมสภาพ คอลลาเจนลดล
- การสูบบุหรี่ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น หน้าโทรม และทำให้ผิวดูมีอายุกว่าอายุจริง
วิธีแก้หน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ เริ่มดูแลได้ด้วยตัวเอง
1. ปรับพฤติกรรมการนอน
การนอนหลับสำคัญ ควรนอนหลับอย่างมีคุณภาพวันละ 7-8 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ดีขึ้น
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
3. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
เน้นผัก ผลไม้ ถั่ว และอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน A, C, E และ Zinc
4. ดูแลสุขภาพจิต ผ่อนคลายความเครียด
5. สกินแคร์ช่วยได้
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, Niacinamide และ Hyaluronic Acid ในการบำรุงผิวหน้า
การดูแลผิวและการบำรุงผิวหน้า อย่างถูกวิธี
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว
- สครับผิว สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- การมาส์กหน้าช่วยฟื้นฟูผิว ทั้งชนิดครีม โคลน หรือแผ่นมาส์ก ซึ่งอุดมไปด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว บางสูตรก็จะมีสารสกัดพิเศษ ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น สูตรเพิ่มความกระจ่างใส สูตรรักษาสิว
- ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในบ้านหรือสถานที่ที่ไม่โดน เพื่อป้องกันรังสี UVA UVB และ Blue Light ที่สามารถทำร้ายผิวได้
- ใช้เซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบให้ผิว
การรักษาหน้าโทรมด้วยวิธีการแพทย์
1. โปรแกรมฉีดวิตามิน แก้ผิวหน้าโทรม
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น
- ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน เพิ่มความกระจ่างใส
- เสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยฟื้นฟูให้ผิวพรรณดูสดใส มีความกระจ่างใสขึ้น
- เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ดูสุขภาพดี เรียบเนียน
2. โปรแกรมฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้หน้าดูโทรม ดูแก่ก่อนวัยทำลายความมั่นใจ ซึ่งการทำโปรแกรมฉีดโบท็อก ก็จะสามารถช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้าซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาหน้าโทรมได้ แล้วยังสามารถฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยได้ทั้งหน้าผาก หางตา รอยขมวดคิ้วและลดกราม โดยหลังฉีดโบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีด 3-4 วัน และคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
3. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) มีคุณสมบัติช่วยในการเติมเต็มใต้ชั้นผิวหนัง ปรับรูปหน้า ให้มีความสมดุล และแก้ไขปัญหาในส่วนจุดที่เสื่อมสภาพบนโครงหน้าที่เป็นสาเหตุทำให้หน้าดูโทรมเหนื่อยล้า ไม่สดใส เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้บริเวณที่มีปัญหาถูกเติมเต็มทำให้ใบหน้ามีความอิ่มฟูขึ้น และยังมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวมีความโกลว์ใสเรียบเนียนขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
4. โปรแกรมฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Collagen Biostimulator คือ สารที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ สามารถเข้าไปฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์ ปรับโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น และความกระชับให้กับผิวกลับมาเต่งตึง รวมถึงช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหายซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาหน้าโทรม ไม่กระจ่างใส กลับมาสวยเปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
- โปรแกรม Sculptra มีสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นส่วนประกอบจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวในชั้นลึกถึงระดับเซลล์ ให้ผิวมีการฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวยกกระชับ เรียบเนียน ผิวมีความยืดหยุ่นแลดูอ่อนเยาว์ลง และคงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี
- โปรแกรม JuveLook มีส่วนประกอบของสาร PDLLA (Poly D,L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ไว้ในตัวเดียวกัน ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกถึงโครงสร้างผิว ทำหน้าที่ทั้งกระตุ้นคอลลาเจน และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวในเวลาเดียวกัน ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี
- โปรแกรม Radiesse จะมีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้า ฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้มีการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan ให้ผลลัพธ์อยู่ได้ถึง 2 ปี
- โปรแกรม HarmonyCa ผสมผสานระหว่าง HA และ CaHA มอบผลลัพธ์แบบ Duo Effects ทำ 1 ได้ถึง 2 ผลลัพธ์ในตัวเดียว ทำให้ผิวยกกระชับขึ้นตั้งแต่หลังฉีด และสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ในระยะยาว และสามารถปรับแก้ไขโครงสร้างผิวที่ทรุดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. โปรแกรมเครื่องยกกระชับแก้หน้าโทรม
Ultraformer MPT เทคโนโลยียกกระชับผิว ด้วยเทคโนโลยี High-Intensity Focused Ultrasound ซึ่งจะเป็นการส่งพลังงานคลื่นเสียงที่มีความเข้มข้นสูงลงไปใต้ผิวหนัง ในตําแหน่งความลึกตามที่ต้องการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (MMFU: Micro & Macro Focused Ultrasound) ช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับและเต่งตึงขึ้น สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว พร้อมช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกในชั้นผิว ซึ่งจะตอบโจทย์เรื่องผิวและการยกกระชับหน้า ลดริ้วรอย พร้อมลดไขมันที่ผิว ปรับรูปหน้าดูเรียวสวยได้ภายในเครื่องเดียว
6.เลเซอร์หน้าใส แก้ปัญหาหน้าโทรม
หัตถการที่ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวเก่า ด้วยเทคโนโลยีความงามที่ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ โดยยิงพลังงานลงสู่ชั้นผิวในระดับพลังงานที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ กำจัดเม็ดสีเมลานิน เผยผิวใสขึ้น และลดเลือนปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว เครื่องเลเซอร์หน้าใสที่นิยม คือ Pico Laser , Fractional , Q-Switch
หลังทำเลเซอร์หน้าใส อาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น ตกสะเก็ด ผิวแห้งลอก ผิวไวต่อแสงได้ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจัดในช่วง 1-3 วันแรก เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ควรเข้ารับการทำเลเซอร์ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
7. ทรีทเม้นท์ ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก
กระบวนการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วยเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อช่วยฟื้นฟู ดูแล และแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ โดยทรีทเม้นท์หน้าจะใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ หรือผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษ เช่น เซรั่มเข้มข้น วิตามินบำรุงผิว และเทคนิคการผลักสารเข้าสู่ชั้นผิว ช่วยให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างตรงจุด กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้กระจ่างใส มีความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าให้แข็งแรง สุขภาพดี
การป้องกันหน้าโทรม
สุขภาพผิวที่ดีควรเริ่มจากการดูแลตั้งแต่ภายใน และนั่นคือหัวใจสำคัญของการป้องกันหน้าโทรมได้ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม.
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเช็กความสมดุลของร่างกาย
FAQs
Q : วิธีแก้หน้าโทรมแบบเร่งด่วน
A : ให้เน้นดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ใช้มาส์กหน้าและแต่งหน้าให้ดูสว่างสดใส เช่น คอนซีลเลอร์และไฮไลท์ ก็ช่วยได้ในระยะสั้น
Q : หน้าโทรมขาดวิตามินอะไร?
A : ส่วนใหญ่เกิดจากการขาด วิตามิน C, B-complex, E และ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนและสุขภาพผิว
Q : หน้าโทรมมากเกิดจากอะไร?
A : อาจเกิดจากการอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม ภาวะฮอร์โมนแปรปรวน มลภาวะต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เช่น ฝุ่น ควัน และการไม่ดูแลตัวเอง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์
สรุป
“หน้าโทรม” ไม่ได้เกิดจากผิวหน้าเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงสุขภาพภายในโดยรวมด้วย การดูแลตัวเองให้ครบทั้งภายในและภายนอกคือทางออกที่ดีที่สุด ถ้าเกิดปัญหาหน้าโทรม หน้ามอง หน้าดูเหนื่อยล้า สามารถกู้หน้าโทรมคืนความสดใสให้กับใบหน้าได้ด้วยความรู้ ความเข้าใจ และการเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง หรือถ้าหากกำลังเจอกับปัญหาใบหน้าโทรม หมองคล้ำ และยังไม่รู้จะเริ่มดูแลตัวเองอย่างไร ลองเริ่มจากข้อแนะนำในบทความนี้ หรือปรึกษากับเราที่ Aestima Clinic ได้ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาผิวของคุณ เราให้ความสำคัญดูแลทุกขั้นตอนด้วยความละเอียดเคสต่อเคส


