ลดน้ำหนักหลังคลอด ลดพุงหลังคลอด ให้กลับมากระชับ แบนราบอีกครั้ง

seo-17.03.68-หน้าท้อง-1-(1)
เลือกอ่านข้อมูลที่สนใจ

ต้องการปรึกษาปัญหาความงามกับ Aestima

ฟอร์มปรึกษาปัญหา (หน้าแรก)

วิธีลดน้ำหนักหลังคลอด ลดพุงหลังคลอด ให้กลับมากระชับอีกครั้ง

ปัญหาพุงหลังคลอดเป็นปัญหาที่หนักใจของคุณแม่เป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่คุณแม่ยังคงมีปัญหาพุงหลังคลอด การที่น้ำหนักลด หน้าท้องยุบหลังคลอดต้องใช้ระยะเวลานานมาก การจะกลับมามีหน้าท้องที่แบนราบเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ดูแลลูกเป็นหลัก ทำให้มีเวลาที่น้อยลง อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณแม่หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลรูปร่างมากนัก เราเชื่อว่าไม่มีใครอยากมีพุงหย่อน พุงหนา กันทั้งนั้น ดังนั้นบทความนี้จะพาเหล่าแม่ๆ ไปดูแนวทาง และวิธีการดูแลรูปร่างหลังคลอดยังไงให้กระชับ พร้อมผิวเรียบตึงกลับมาได้อีกครั้ง

ลดน้ำหนักหลังคลอด

พุงหลังคลอด หรือ (Mommy Belly) คือ ภาวะที่มีการสะสมของไขมันหรือการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องหลังการคลอดลูก ซึ่งอาจทำให้หน้าท้องยังดูป่องหรือไม่กลับสู่สภาพเดิมในทันทีหลังการคลอด

การเกิดพุงหลังคลอดมีสาเหตุหลายประการ

  1. การเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะตั้งครรภ์ ระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการสะสมไขมันเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงลูกหลังคลอด ซึ่งทำให้หน้าท้องขยายและเกิดการยืดตัวของผิวหนังและกล้ามเนื้อหน้าท้อง
  2. การหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ ในระหว่างการตั้งครรภ์ กล้ามเนื้อท้องอาจขยายตัวและบางลง ทำให้หลังการคลอด อาจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้หน้าท้องยังดูยุบยาก
  3. การสะสมของไขมันหลังคลอด ร่างกายบางคนอาจสะสมไขมันเพื่อลดความเครียดหรือฟื้นฟูพลังงานจากการให้นมบุตร
  4. การหยุดออกกำลังกาย หลังคลอด การดูแลลูกอาจทำให้ผู้หญิงไม่ได้ออกกำลังกายมากเท่าที่เคยทำ ทำให้กล้ามเนื้อท้องไม่กระชับ
  5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ฮอร์โมนในร่างกายอาจส่งผลต่อการสะสมไขมันและการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อหลังการคลอด

หลังคลอดร่างกายเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

หลังคลอด ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งทางร่างกายและฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและอารมณ์ ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังคลอด

มดลูกที่ถูกทำลาย มดลูกจะกลับมาขนาดปกติอีกครั้งที่ 6-8 สัปดาห์ อาจเกิดอาการปวดมดลูกในขณะที่ให้นม

  1. น้ำคาวปลา มีเลือดออกจากช่องคลอด (น้ำคาวปลา) ที่จำเป็นและหมดไปภายใน 4-6 สัปดาห์
  2. เต้านมขยายและคัด โดยปกติในช่วงที่น้ำนมเริ่มมาอาจตรวจพบเต้านมและเจ็บเต้านม
  3. หน้าท้องและผิวหนังหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อหน้าท้องขยายได้หลายเดือนกว่าจะกลับมาปกติอีกครั้ง
  4. ผมร่วง เกิดขึ้นหลังคลอด อาจร่วงเพียงชั่วคราวเข้าสู่ภาวะปกติประมาณ 6-12 เดือน

วิธีลดน้ำหนักหลังคลอดอย่างถูกต้องและมีความปลอดภัยมากขึ้น

การลดน้ำหนักหลังคลอดต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปและปลอดภัย โดยเฉพาะหากคุณให้นมลูก นี่คือแนวทางที่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่กระทบสุขภาพ
1. กินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันต่ำ และไขมันดี เลี่ยงอาหารแปรรูปและน้ำตาลสูง เช่น ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม และของทอด แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ เพื่อรักษาระดับพลังงานและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ
2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เริ่มจากการ เดินเบา ๆ วันละ 20-30 นาที แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้น ทำ โยคะหลังคลอด หรือ พิลาทิส เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว หากคุณคลอดธรรมชาติ สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังคลอด 4-6 สัปดาห์ แต่ถ้าผ่าคลอดควรปรึกษาหมอก่อน
3. ให้นมลูก การให้นมลูกช่วยเผาผลาญพลังงานประมาณ 500 แคลอรีต่อวัน ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
4. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น พยายามหาเวลาพักผ่อนเมื่อมีโอกาส
5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ น้ำช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญและลดความอยากอาหาร
6. ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง การลดน้ำหนักหลังคลอดอาจใช้เวลา 6-12 เดือน อย่าเร่งรีบเกินไป และอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป

วิธีลดพุงหลังคลอดด้วยเทคโนโลยี

1.Program Morpheus หรือ Program Morpheus 8 เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ผสานเทคโนโลยี Fractional Radiofrequency (RF) และ Microneedling เข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและยกกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยความลึกของการรักษาที่ปรับได้ ในระดับความลึกของพลังงาน RF ที่ส่งเข้าสู่ผิวได้ตั้งแต่ 1-7 มิลลิเมตร ทำให้สามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวหน้า ลำคอ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะหน้าท้อง รวมถึงการลดเลือนริ้วรอยและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน

2. Program Cool Curve เป็นการลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องหลังคลอดค่อนข้างมาก หลักการทำงานโดยการส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -5 ถึง -10 องศา อย่างคงที่ไปใต้ผิวหนังขั้นไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวและสลายโดยการถูกขับออกจากร่างกาย Program Cool Curve มีระบบ Pulse Vacuum and Heat ซึ่งคือการดูด ปล่อยเป็นจังหวะ “Harmony Suction” ลดความเจ็บปวดขณะทำ และมีการปล่อยความร้อนก่อนการรักษาเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ไม่ทำให้ เกิดแผล ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

3. Program Exilis Ultra 360 เป็นเทคโนโลยีที่ผสานพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) และคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยในการสลายไขมันและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด พลังงานทั้งสองชนิดนี้จะถูกส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนัง กระตุ้นการสลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ ทำให้สัดส่วนกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับและเรียบเนียน ขณะทำการรักษาจะรู้สึกเหมือนการนวดสปา ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ข้อดีของการลดน้ำหนักหลังคลอด

การลดน้ำหนักหลังคลอดอย่างถูกวิธีมีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพของแม่ข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้

1. ฟื้นฟูสุขภาพและร่างกาย ลดความเสี่ยงของ โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ช่วยให้ ฮอร์โมนสมดุล ลดอาการอารมณ์แปรปรวนหลังคลอด ลดโอกาสเกิดภาวะ ซึมเศร้าหลังคลอด

2. เพิ่มพลังงานและความแข็งแรง ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น ทำให้มีพลังงานเลี้ยงลูกและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเสริมสร้าง กล้ามเนื้อและความยืดหยุ่น ของร่างกาย

3. ช่วยให้กลับมามีรูปร่างที่มั่นใจเพิ่ม ความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกภาพ ช่วยให้ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายขึ้น

4. กระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน ทำให้ ระบบเผาผลาญดีขึ้น ลดความเสี่ยงของ ภาวะอ้วนหลังคลอด

5. ส่งผลดีต่อการให้นมลูกอาหารที่ดีและการออกกำลังกายช่วยให้ น้ำนมมีคุณภาพ น้ำหนักที่สมดุลช่วยให้ ร่างกายผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น

6. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกการมีพฤติกรรมสุขภาพดีช่วยให้ลูกเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ

7. ลดอาการปวดหลังและข้อ น้ำหนักที่ลดลงช่วยลดแรงกดทับที่หลังและข้อเข่า ลดอาการปวดที่พบบ่อยหลังคลอด

ข้อควรรู้ก่อนลดน้ำหนักหลังคลอด

การลดน้ำหนักหลังคลอดเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง ถูกต้องและมีความปลอดภัยเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวและคงมีพลังงานเพียงพอต่อการดูแลลูกอีกด้วย

  1. อย่ารีบลดน้ำหนักเร็วเกินไป
  2. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  3. เลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม
  4. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  5. ดูแลสุขภาพจิตใจ

การตรวจสุขภาพคุณแม่หลังคลอดสำคัญอย่างไร?

การตรวจสุขภาพคุณแม่หลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้แน่ใจว่าร่างกายและจิตใจของคุณแม่ฟื้นตัวได้ดีหลังการตั้งครรภ์หรือไม่

  1. ประเมินการฟื้นตัวของร่างกาย เช่นการตรวจดูแผลผ่าคลอด การเช็กมดลูกว่าหดกลับสู่สภาพปกติหรือยัง ประเมินภาวะตกเลือดหลังคลอด
  2. ตรวจหาภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด เช่น ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด,ภาวะโลหิตจาง ,การตรวจระบบขับถ่าย และฮอร์โมน
  3. แนะนำเรื่องการให้นมบุตร แก้ปัญหาน้ำนมน้อย หัวนมแตก หรือท่อนมอุดตัน ,ตรวจเต้านมเพื่อป้องกันภาวะเต้านมอักเสบ
  4. วางแผนการคุมกำเนิด แนะนำการคุมกำเนิดที่เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด
  5. ดูแลสุขภาพจิตและการปรับตัว

การอยู่ไฟหลังคลอด

การอยู่ไฟหลังคลอดคืออะไร? การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นภูมิปัญญาไทยที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดโดยใช้ความร้อนเข้ามาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการปวดเมื่อย และช่วยให้ร่างกายกลับสู่สมดุลเร็วยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการอยู่ไฟหลังคลอด
1. ช่วยขับน้ำคาวปลา ความร้อนช่วยให้มดลูกบีบตัวดีขึ้น ขับของเสียออกจากร่างกายเร็วขึ้น
2. ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว ที่เกิดจากการตั้งครรภ์และการคลอด
3. กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ลดอาการมือเท้าชา และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
4. ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดภาวะมดลูกอักเสบ
5. ช่วยให้ผิวพรรณสดใส การขับของเสียและเหงื่อออกทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
6. บรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียด

ลดน้ำหนักหลังคลอด ควรเริ่มทำตอนไหน?

การลดน้ำหนักหลังคลอดควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่ โดยมีแนวทางดังนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มลดน้ำหนัก
1. 6 สัปดาห์หลังคลอด (สำหรับการคลอดธรรมชาติ) ควรรอให้ร่างกายฟื้นตัวจากการคลอดก่อน เริ่มจากการปรับอาหารและเพิ่มกิจกรรมเบา ๆ เช่น การเดิน
2. 8-12 สัปดาห์หลังคลอด (สำหรับการผ่าคลอด) การผ่าคลอดทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกาย
3. หากให้นมลูก ควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรลดน้ำหนักเร็วเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อปริมาณน้ำนม ควรลดน้ำหนักไม่เกิน 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

บทสรุป

การลดน้ำหนักหลังคลอดต้องใช้เวลาและความอดทน ควรเน้นสุขภาพเป็นหลัก มากกว่าการเร่งรีบลดน้ำหนักเร็วเกินไป หากทำอย่างถูกวิธี ร่างกายจะกลับมาฟิตและแข็งแรงในระยะยาว

  • เริ่มลดน้ำหนักเมื่อร่างกายพร้อม
  • ปรับอาหารให้สมดุล
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาพุงหลังคลอด อยากลดน้ำหนักหลังคลอด ทางเอสติมา คลินิก มีวิธีลดพุงหลังคลอดที่เป็นกลุ่มหัตถการด้วยการดูแลเคสต่อเคส พร้อมใช้เทคโนโลยีทันสมัยและมีมาตรฐาน สำหรับการฟื้นฟูหน้าท้องของคุณแม่หลังคลอดให้กลับมากระชับ หากสนใจในการแก้ไขปัญหาหลังคลอดติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอสติมา คลินิก นะคะ

เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ

เนื้อรักแร้ปลิ้น มีไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ ใส่สายเดียวแล้วนมน้อยโผล่ ขาดความมั่นใจ! กำจัดได้ที่ AESTIMA CLINIC

สาว ๆ หลายคนอาจจะประสบปัญหาใส่เสื้อโชว์แขน แล้วหมดความมั่นใจ ใส่แล้วไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะมีไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ รักแร้ปลิ้น

Read More »

กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอจามปัสสาวะเล็ด รักษาได้ ไม่เจ็บตัว พร้อมเพิ่มความกระชับกลับมา แน่น ฟิต!!

กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ช่องคลอดไม่กระชับ ปัญหากวนใจของผู้หญิงหลาย ๆ คน อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง แก้ปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปรึกษาที่เอสติมา คลินิก คลิกเลย!

Read More »

แก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย แก้มย้อย แก้ปัญหาอย่างไรให้เห็นผล

ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย แก้มย้อย เกิดได้หลายสาเหตุ ควรได้รับการวิเคราะห์ปัญหาผิวจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด คลิกเลย

Read More »

ต้องการปรึกษาปัญหาความงามกับ Aestima

ฟอร์มปรึกษาปัญหา (หน้าแรก)